6 ข้อ ที่มักเข้าใจผิดเมื่อต้องขายบ้าน ??

สร้างเมื่อ : 12 ม.ค. 2567

6 ข้อเข้าใจผิดเมื่อต้องขายบ้าน

การขายบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งถ้าเป็นครั้งแรกด้วยล่ะก็อาจยังมีหลายจุดที่ผู้ขายยังเข้าใจผิด ในช่วงการขายอาจมีการดึงต้นทุนในเรื่องของเวลาและอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

การขายบ้านต้องยอมรับฉากที่ว่าคนแปลกหน้าเดินไปมาในบ้านคุณตินู่นตินี่ไปเรื่อยพยายามดันให้ราคาขายของคุณตกลงส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวและเสียเวลาไม่ใช่เล่น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความวุ่นวายด้านเอกสารต่าง ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับธุรกรรมการ ซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ มือใหม่อย่างเราอาจจะต้องศึกษาให้ดีก่อน

อย่างไรก็ตามปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ลิสต์ด้านล่างต่อไปนี้คือข้อเข้าใจผิดที่เราสามารถเรียนรู้จากมันเพื่อลดอาการหัวเสียที่อาจเกิดขึ้นในจากการขายบ้านของคุณ

ข้อเข้าใจผิดข้อที่ 1 – นำอารมณ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวบ้านมากเกินไป

เราเข้าใจว่าใคร ๆ ก็รักบ้านกันทั้งนั้นเมื่อต้องขายบ้านอันเป็นที่รัก ผู้ขายอาจจะระลึกไปถึงความรู้สึกของตนในช่วงกำลังมองหาบ้านครั้งแรก ในบางครั้งก็ทำในสิ่งไม่จำเป็น แต่งเติมเอาใจผู้ซื้อที่จะเข้ามาดูบ้านในอนาคต การกระทำเช่นนี้จะยิ่งเป็นการกดดันให้คุณกำหนดราคาบ้านของคุณสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นจากการต่อเติมเหล่านั้น

ข้อเข้าใจผิดข้อที่ 2 – คิดว่าไม่จำเป็นในการจ้างตัวแทน (Agent) เพื่อช่วยขาย

แม้หลายคนอยากจะลองขายบ้านเองเนื่องจากไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าคอมมิชชั่นซึ่งดูเหมือนจะเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย (ประมาณ 3-5% ของราคาขาย)

แต่เชื่อเถอะหากเป็นมือใหม่ควรปล่อยให้มืออาชีพเขาจัดการให้ดีกว่า เอเจ้นท์ (ที่ดี) จะช่วยให้การขายบ้านของคุณสามารถปิดจ็อบได้ไวในราคาที่เหมาะสมกับสภาพของตลาด และเอเจ้นท์ยังเป็นคนรองรับอารมณ์จากผู้สนใจซื้อรายต่าง ๆ แทนคุณและพวกเขาเหล่านี้มีวิธีและคำพูดจาต่อกรกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงพวกเขายังช่วยแยกกลุ่มผู้ซื้อที่อาจจะมีความสนใจต่างกันนั่นคือ “สนใจเข้ามาดู” และ “สนใจซื้อจริง ๆ”

ข้อเข้าใจผิดข้อที่ 3 – คิดว่าทุกการขายจำเป็นต้องจ้างตัวแทน

ในทางตรงกันข้ามหากคุณมีความรู้ด้านตลาดอสังหาฯ ในปัจจุบันและความรู้พื้นฐานด้านเอกสารธุรกรรมการซื้อ-ขายอสังหาฯ ต่าง ๆ คุณสามารถทำเองได้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาอาจจะเป็นต้นทุนในเรื่องของเวลาเพื่อใช้ศึกษา หากคุณเข้าใจกลไกต่าง ๆ ดีในเรื่องเหล่านี้การเสียค่าคอมฯหรือเพิ่มส่วนลดที่ไม่จำเป็นที่ตัวแทนนำเสนอให้กับผู้ซื้ออาจไม่ใช่เรื่องจำเป็น ควรคำนึงถึงต้นทุนด้านการตลาดที่คุณต้องดำเนินการเองเช่นการนำตัวบ้านของคุณลงประกาศขายในเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งหากเป็นเว็บไซต์ซื้อ-ขายรายใหญ่อาจจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องจำนวนของการลงและการต่ออายุของประกาศ

และแน่นอนเมื่อลงไปแล้วคุณอาจจะต้องคอยรับมือกับผู้ที่สนใจที่จะติดต่อเข้ามาซึ่งบางรายอาจทำคุณหัวเสียและเสียเวลาไม่ใช่น้อย ยิ่งถ้าฝั่งผู้ซื้อพกตัวแทนมาเองด้วยเป็นไปได้ว่าอสังหาฯ ของคุณอาจจะโดนกดราคาลงไปอีก

ข้อเข้าใจผิดข้อที่ 4 – ตั้งราคาตามใจฉัน

ไม่ว่าคุณจะขายบ้านแบบฉายเดี่ยวหรือมีเอเจ้นท์ช่วย การตั้งราคาขายที่เหมาะสมคือเรื่องสำคัญ ให้คิดเสมอว่าคนอื่นเขาต้องทำรีเสิร์ชและเปรียบเทียบราคาตลาดเหมือนกับคุณตอนซื้อบ้านเหมือนกันเพราะไม่มีใครอยากโดนฟันหัวเป็นแน่

หากตัดปัจจัยภาวะฟองสบู่ออกไป บ้านที่ถูกตั้งราคาสูงเว่อร์อาจจะปล่อยขายได้ยากหรือปล่อยขายไม่ได้เลย การตั้งราคาให้ต่ำกว่าราคาตลาดถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจเช่นกันเนื่องจากจะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้สนใจเข้าติดต่อคุณซึ่งอาจนำไปสู่ข้อเสนอที่ราคาอยู่ใกล้เคียงหรือเท่ากับราคาของตลาดได้ และหากราคาขายที่คุณตั้งถูกกว่าของเจ้าอื่น ๆ ใน Listing ประกาศซื้อขายบ้านบนหน้าเว็บไซต์ เป็นไปได้ว่าประกาศของคุณอาจจะโดนคลิกเข้ามาชมมากกว่าเจ้าอื่น ๆ

ข้อเข้าใจผิดข้อที่ 5 – คิดว่าสามารถปิดซ่อนปัญหาเกี่ยวกับตัวบ้านได้มิด

ปัญหาเกี่ยวกับตัวบ้านปิดอย่างไรก็ไม่มิด 100% และอาจถูกค้นพบเมื่อถึงช่วงตรวจสอบบ้านจากผู้ซื้อ (Inspection) ทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้มีตั้งแต่ซ่อมจุดเสียหายเดี๋ยวนั้น, ตั้งราคาขายต่ำกว่าตลาดเนื่องจากปัญหาข้อเสียหายที่เกิดขึ้นหรือตั้งราคาขายปกติแต่ทำสัญญากับผู้ซื้อว่าผู้ขายจะทำการการออกค่าใช้จ่ายเองหากเกิดกรณีซ่อมแซมในจุดเสียหายที่ตรวจเจอ

ไม่ใช่เรื่องดีแน่หากปิดไว้อย่างเนียน ๆ ไม่ซ่อมแซมก่อนเพราะคุณอาจจะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (แพงมาก) หากสภาพบ้านไม่เป็นไปตามในสัญญาที่ระบุ

ข้อเข้าใจผิดข้อที่ 6 – เชื่อใจผู้ซื้อมากเกินไป

ไม่เป็นการเสียมารยาทหากจะขอดูจดหมายอนุมัติสินเชื่อของผู้ซื้อที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือรัฐเพื่อเป็นการการันตีถึงเรื่องความสามารถด้านการเงินของผู้ซื้อรวมถึงการันตีในเรื่องเงินที่ผู้ขายจะได้รับจากการขายบ้าน ยิ่งถ้าคุณมีกรอบระยะเวลาในการปล่อยขายบ้านให้สำเร็จด้วยล่ะก็อย่าเลือกผู้ซื้อที่ติดภาระในการปล่อยขายบ้านเก่าเพื่อซื้อบ้านใหม่เพราะนั่นหมายถึงความไม่แน่นอนในการปิดดีลนั่นเอง

⛲ถ้าท่านคิดจะขายบ้าน เวลาที่ดีที่สุดคือตอนนี้❗ Exclusive Asset จะช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ โทรหาเราสิครับ
✅#โซนกรุงเทพฯ ราชพฤกษ์ คุณเอก 064-645-6987
✅#โซนนนทบุรี ราชพฤกษ์ พระราม 5 คุณนุ่น 082-956-6564
✅#โซนพระราม2 กัลปพฤกษ์ หนองแขม คุณนัท 094-332-3521
✅#รามอินทรา เกษตรนวมินทร์ คุณแอ๊ด 099-391-8989

💎ประเมินราคาตลาดบ้านให้ฟรีก่อนฝากขาย
💎การตลาดแบบExclusiveเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Hi-end
💎ขายไม่ได้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
www.exclusive-asset.com
#ExclusiveAssetมืออาชีพซื้อขายบ้านแบรนด์คฤหาสน์หรูโดยเฉพาะ
#ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ #บ้านแบรนด์ #บ้านหรู #luxuryhouse #บ้านกรุงเทพ #บ้านนนทบุรี

บทความที่เกี่ยวข้อง (3)

MAY

อยากรู้ว่าเราเป็นคนยังไงดูได้จากการ

ยิ่งคุณใช้เวลาอยู่กับบ้านมากเท่าไหร่ พื้นที่ในบ้านที่คุณใช้จะยิ่งเป็นตัวบ่งบอกนิสัยของคุณมากเท่านั้น บ้าน เป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด จึงไม่แปลกที่เราสามารถดูบุคคลิกและลักษณะนิสัยของตัวเองได้จากการตกแต่งบ้านและการจัดระเบียบบ้าน แม้บางอย่างจะเผลอทำโดยไม่ได้ตั้งใจแต่ในเชิงจิตวิทยามันก็บ่งบอกได้ว่าตัวตนและความคิดของคุณเป็นแบบไหน วันนี้เรายกตัวอย่าง 9 ลักษณะการจัดบ้านที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณ สำหรับทั้งคนเจ้าระเบียบและคนชอบห้องของเยอะ หากอยากรู้ว่าเราเป็นคนยังไงก็ลองไปดูกันเลยดีกว่า ลิ้นชักเก็บถุงเท้าไม่เป็นระเบียบ – คุณเป็นคนใส่ใจทุกรายละเอียด หากคุณเป็นคนที่เก็บถุงเท้าในลิ้นชักไม่เข้าที่ มันบ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่มีความใส่ใจในรายละเอียดสูง เคารพกฎกติกา และเป็นคนค่อนข้างมีระเบียบ สาเหตุหลักที่ทำให้ลิ้นชักถุงเท้าสกปรกอาจจะเป็นเพราะคุณใช้เวลาใส่ใจงานส่วนอื่นมากเกินไป จนไม่มีเวลาโฟกัสงานเล็กๆ น้อยที่เกี่ยวกับตัวเอง (อ้างอิงจากงานวิจัยของ Dr. Helen Fisher) จัดสวนสวยงาม – คุณเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต หนึ่งในงานวิจัยจาก Gardeners' World magazine ระบุว่า 80% ของคนที่ชอบจัดสวนเป็นกลุ่มคนที่มีความสุขกับชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ปล่อยสนามหน้าบ้านไว้โล่งๆ นอกจากนี้การจัดสวนยังช่วยเสริมสร้างอารมณ์เชิงบวก ทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีมากขึ้นด้วย เก็บที่นอนเป็นระเบียบ – คุณชอบออกกำลังกาย หลายคนคงสงสัยว่าการเก็บที่นอนเรียบร้อยเกี่ยวอะไรกับความชอบออกกำลัง แต่จากการสำรวจประชากรจำนวน 70,000 คน พบว่าคนที่จัดเก็บที่นอนเป็นระเบียบ ชื่นชอบการเข้ายิมเป็นชีวิตจิตใจเพราะมันช่วยให้สมองปลอดโปร่งและมีความสุข ซึ่งแนวโน้มของคนที่มีความสุขส่วนใหญ่จะชอบจัดเก็บของทุกอย่างให้เป็นระเบียบเข้าที่เข้าทาง ตู้เสื้อผ้ารกรุงรัง – คุณเป็นคนที่จมอยู่กับอดีต หากคุณเป็นนักสะสมที่ไม่กล้ากำจัดเสื้อผ้าไม่ใช้แล้วออกจากตู้ นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนที่ยังยึดติดอยู่กับอดีตและไม่สามารถสลัดตัวเองออกจากความทรงจำเก่าๆ ได้ ซึ่งมันก็เป็นหนึ่งในอาการที่เรียกว่า Nostalgia หรือโรคคิดถึงอดีต ทำให้ยากต่อการ ‘ทิ้ง’ ของเก่าที่ยังหลงเหลือความทรงจำบางอย่างไว้ (อ้างอิงจาก Jennifer Baumgartner, Psy.D) โต๊ะทำงานโล่งว่าง - คุณเป็นคนพึ่งพาได้ คนที่จัดโต๊ะทำงานเป็นระเบียบและไม่ค่อยมีของตกแต่งมากนัก ไม่ได้หมายความว่าพวกคุณเป็นคนเก็บตัวหรือไม่เข้าสังคม ในทางกลับกัน พวกคุณคือคนที่สามารถพึ่งพาได้มากที่สุด ในฐานะพนักงานคนหนึ่ง คุณจะเป็นคนที่เพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานอยากขอความช่วยเหลือและยังเป็นส่วนช่วยให้บริษัทก้าวหน้าได้ดีขึ้นด้วย (อ้างอิงจาก Lily Bernheimer) สะสมอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านไว้เป็นคอลเล็กชัน – คุณเป็นคนรอบคอบ จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลง The Journal of Political Psychology ให้เหตุผลว่าคนที่มีอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านครบทุกแบบทุกการใช้งานและเป็นคนรักการทำความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ คือคนรอบคอบที่อยากจัดสรรทุกอย่างตามลำดับ และยังเป็นคนที่กังวลในความปลอดภัยของตัวเอง จึงจำเป็นต้องจัดของทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเพื่อไม่ให้พื้นที่ต่างๆ ดูคลุมเคลือไม่ชัดเจน เก็บของกินไว้เต็มตู้เย็น - คุณเป็นคนชอบเข้าสังคม หากคุณเป็นคนประเภทที่ไปห้างทีไรก็รู้สึกว่าทุกอย่างดูน่าซื้อไปหมด มันบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนรักสนุก ชอบเข้าสังคม เป็นคนมีคาริสมาและอยากเอนเตอร์เทนให้แขกที่มาบ้านมีความสุข ซึ่งมันก็สอดคล้องลักษณะนิสัยที่ชอบเติมเต็มตู้เย็นให้มีของกินอยู่ตลอดเวลา จะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นให้เหนื่อยหากต้องจัดปาร์ตี้แบบเร่งด่วน (อ้างอิงจาก DISC insights) ใช้ราวแขวนผ้าแบบเปิดแทนตู้เสื้อผ้า – คุณหลงใหลในแฟชั่น นักจิตวิทยา Dr. Linda Papadopoulos ได้คุยกับบล็อกเกอร์ท่านหนึ่งและเธอได้ให้เหตุผลว่า ที่เลือกใช้ราวแขวนผ้าแบบเปิดแทนตู้เสื้อผ้า เป็นเพราะเธอไม่ได้มองว่าเสื้อผ้าเป็นแค่เครื่องสวมใส่ แต่มันคือศิลปะอย่างหนึ่งที่ควรเปิดเผย ช่วยเพิ่มความสนุกในการเลือกเสื้อผ้าและเพิ่มสีสันให้กับการแต่งตัวได้มากขึ้น บ้านที่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือ – คุณเป็นคนเปิดใจ หนังสือสามารถบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนเปิดใจ ลองคิดดูว่ากว่าเราจะรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นสนุกหรือไม่เราต้องยินดีที่จะลองอ่านและเปิดใจให้มันก่อน ซึ่งหากจะดูว่าคุณเป็นคนเปิดใจพร้อมรับไอเดียใหม่ๆ หรือไม่ ก็สามารถดูได้จากชั้นหนังสือที่อยู่ในบ้านคุณว่ามีมากน้อยแค่ไหน หรือแม้แต่กระทั่งของตกแต่งอาร์ตๆ หรือของฝากจากสถานที่ที่เคยไปก็ชี้ให้เห็นความเป็นตัวคุณได้เหมือนกัน ใครที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ก็อย่าลืมไปสำรวจห้องตัวเองกันดูนะว่าลักษณะของบ้านเรามีความใกล้เคียงกับ 9 ข้อนี้หรือไม่ จะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นคนอย่างไร Source : https://bestlifeonline.com/home-reveals-about-personality/

MAY

เจอผีในบ้านอย่าไปกลัว ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องสู้ด้วยไอเทมเด็ด!

หลากหลายความเชื่อเรื่อง ผี บอกไม่ได้ว่าใครงมงาย ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จะดีที่สุด! เรื่องเล่า "ผีในบ้าน" จะผ่านไปกี่ปีก็ยังมีคนกระตั้งทู้มาแบ่งปันประสบการณ์กันอยู่เรื่อยๆ บางคนโดนผีอำตอนนอน บางคนเจอเงากับเสียงพอให้ใจหายใจคว่ำ แต่บางคนก็เจอหน้าขาวๆ โผล่มาให้เห็นกันอย่างโจ่งแจ้งเล่นเอาหลอนจนอยู่บ้านกันไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งผีในบ้านส่วนใหญ่มักเป็นผีเจ้าของเก่าที่มีอาการหวงแหนบ้านของตัวเอง แม้จะตายไปแล้วแต่ยังติดอยู่กับวังวนที่ว่าบ้านข้าใครอย่าแตะ! คนซื้อบ้านมือสองเลยแจ็คพอตได้เห็นผีเจ้าของบ้านมีเยี่ยมเยียนทุกคืน คำแนะนำเบื้องต้นของคนที่เคยเจอผีมาแล้วบอกว่า หากเจอผีครั้งแรกให้เราลองเจรจากับผีดูก่อนโดยใช้คำถามเบสิคประดุจสัมภาษณ์งาน เช่น ชื่ออะไร มาทำทำไร จากนั้นเริ่มทำข้อตกลงกัน อย่างเช่น เราจะทำบุญไปให้นะ แต่อย่ามาให้เห็นอีกเรากลัว ส่วนใหญ่ผีนิสัยดีจะคุยง่าย พวกเขาไม่ได้มาร้าย เขาแค่อยากรู้ว่าคนที่มาอยู่บ้านเก่าของพวกเขาเป็นคนยังไง จะดูแลบ้านเขาได้มั้ย ถ้าเราแสดงออกด้วยความจริงใจว่าเราเป็นเจ้าของบ้านใหม่ที่พร้อมดูแลบ้านของเขา และพร้อมส่งเขาไปสู่สุขติ เท่านี้การอยู่ร่วมบ้านกับผีก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว เผลอๆ พอได้ส่วนบุญเขาก็อาจจะไม่มาให้เห็นอีกเลยก็ได้ แต่ถ้าเจอผีนิสัยไม่ดี คุยด้วยก็แล้ว ทำบุญให้ก็แล้ว เอาพระเข้าบ้านก็แล้วยังมาหลอกให้หลอนกันอยู่บ่อยๆ เราก็ต้องสู้กลับด้วย สารพัดไอเทมไล่ผี ให้รู้กันไปเลยว่าฉันนี่แหละเจ้าของบ้านคนใหม่ ไม่ได้กลัวเธอเลยจ้า! วันนี้เราได้รวบรวม ไอเทมไล่ผี จากทุกศาสนามาให้ทุกคนได้นำไปลองใช้กัน ได้ผลมั้ยไม่รู้แต่สบายใจไปแล้ว 1! ข้าวสารเสก พืชผักสวนครัว ถ้าเป็นผีไทยก็ต้องใช้ไอเทมแบบไทยๆ นี่แหละถึงจะเอาอยู่ เริ่มจากประเภทพืชผักสวนครัวที่หาง่ายในบ้านก่อน เช่น กานพลูและกระเทียม ถ้ายังไม่หยุดมาหลอกกันก็คงต้องพึ่งพาข้าวสาร (ปลุกเสก) กันสักหน่อยแล้ว น้ำมนต์ การอัญเชิญพระมารดน้ำมนต์ที่บ้านเพื่อช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากบ้านเป็นสิ่งที่ควรทำอันดับแรกเมื่อย้ายเข้าไปอยู่ใหม่ หากใครไม่สะดวกก็สามารถไปที่วัดและขอให้พระช่วยลงคาถาใส่น้ำมนต์แล้วนำกลับมาไว้ที่หิ้งพระที่บ้านก็ได้ หัวหอม หัวหอมเป็นที่นิยมปลูกในประเทศอียิปต์เพราะชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าหัวหอมช่วยดูดซับพลังงานทางลบไม่ให้เข้ามาสู่ตัวบ้าน มันจึงเหมาะเป็นอีกหนึ่งไอเทมไล่ผี Zhongkui Talisman พวงกุญแจหินดักผี Zhongkui Talisman เป็นเครื่องรางของคนจีนที่ช่วยไล่ผีและสิ่งไม่มงคลออกไปจากบ้าน เรียกว่าเป็นเครื่องมือปราบผีชั้นดีที่คนจีนนิยมใช้กันมาก ผ้ายันต์กันผี หนึ่งในไอเทมยอดฮิต ไม่ว่าใครจะย้ายเข้าบ้านใหม่ หอพักใหม่ หรือแม้แต่ออกรถใหม่ก็ต้องแปะผ้ายันต์เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังช่วยไล่ผีได้ด้วย เครื่องเทศและเกลือเผา วัฒนธรรมของชาวอเมริกันพื้นเมืองจะใช้เครื่องเทศและเกลือเผาแล้วโรยไว้ตามขอบบ้าน โดยเชื่อว่ากลิ่นเครื่องเทศจะช่วยขับไล่ผีออกจากบ้านได้ ไม้กางเขน บ้านไหนที่ผีเป็นต่างชาติก็ต้องขอหยิบยืมไอเทมไล่ผีจากศาสนาอื่นมาใช้ นั่นก็คือ ไม้กางเขน ผู้คนที่นับถือศาสนาคริสต์จะใช้ไม้กางเขนเป็นเครื่องมือไล่ผี ปีศาจ และวิญญาณชั่วร้ายออกจากบ้าน หากใครเคยดูคอนจูริ่งจะได้เห็นลอร์เรนใช้ไม้กางเขนไล่ผีเกือบทั้งเรื่อง นี่ก็เป็นตัวอย่างไอเทมที่เรารวบรวมมาให้ทุกคนได้เลือกใช้กัน บางไอเทมเรารู้ก็จักกันอยู่แล้ว และถ้าลองไปค้นหาเพิ่มเติมจะพบของแปลกๆ อีกหลายอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้ไล่ผีได้จริง เช่น เทียนขาว กุหลาบขาว หรือแม้แต่ใบโรสแมรี่ก็ใช้ได้ ใครอยากลองใช้ไอเทมพวกนี้ก็จัดไป ได้ผลยังไงมาบอกกันบ้างนะ ส่วนถ้าใครโดนผีอำตอนนอนก็ลองเช็คตัวเองดูก่อนว่าผีอำจริงๆ หรือแค่เป็นโรค Sleep Paralysis จะได้ไม่เสียเวลาไล่ผีแล้วไปพบหมอแทน ^O^

MAY

เปลี่ยน-ปรับ ทิศนอนเจ้าบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ทำเองได้ โดยไม่ต้องเสียเงิน

การจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยนั้น นอกจากจะดีต่อดวงชะตาผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการนอนหลับได้อีกด้วย วันนี้ Livinginsider เลยขอนำผู้อ่านที่รักทุกท่านเข้าสู่บทความเปลี่ยน-ปรับคอนโดอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ทำเองได้ ที่ทางผู้เขียนได้รวบรวมและคัดสรรแบบ Short Brief ผ่านหัวข้อแบบกะทัดรัดมาฝากกัน อยากรู้ว่าห้องนอนของคอนโดควรอยู่ทิศไหนดี ตามหลักฮวงจุ้ยมาฝากกัน ทิศของที่นอนที่เหมาะสม ทิศเหนือ มาที่ทิศห้องนอนแรกของฮวงจุ้ยอย่างทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศนี้ยังเป็นทิศที่เหมาะกับเจ้าของบ้านอย่างมาก เพราะเป็นทิศที่ช่วยส่งเสริมให้ชีวิตของเจ้าบ้านดีขึ้น และที่สำคัญยังช่วยส่งเสริมในเรื่องโชคลาภ หน้าที่การงานเอาใจชาวออฟฟิศ ทิศตะวันตก ทิศที่ต้องห้ามสำหรับคนไทย เป็นทิศอัปมงคล โบราณสั่งสอนกันมาว่าถ้านอนเอาหัวไปทางทิศตะวันตก จะทำให้เจ็บป่วย อายุสั้น ทิศใต้ ทิศใต้เป็นอีกหนึ่งทิศที่เหมาะสำหรับห้องนอน ช่วยเสริมเรื่องเกียรติยศ และชื่อเสียงเพราะในอดีตกาลพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระองค์ได้นอนหันพระเศียรไปทางทิศใต้นั่นเอง จึงเป็นทิศที่สิริมงคลที่สุด ทิศตะวันออก หากมีทิศเหนือและทิศใต้ที่ว่าเป็นทิศที่ดีและสิริมงคลที่สุดแล้ว สำหรับทิศตะวันออกนั้นก็ถือได้ว่าเป็นทิศที่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ ทำให้ผู้พักอาศัยนอนหลับสบาย พร้อมรับเช้าวันใหม่ที่สว่างสดใส จึงเหมาะสำหรับเจ้าของห้องที่ต้องการความประสบความสำเร็จ ตำแหน่งที่ตั้งของที่นอนที่ดี มาต่อกันที่ฮวงจุ้ยห้องนอนที่ควรปรับเปลี่ยนเป็นอย่างที่สอง นอกจากการหันทิศให้ถูกต้อง คือตำแหน่งของที่นอนเพราะต้องเน้นการนอนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นตำแหน่งวางที่นอนต้องห้าม มีดังนี้ ไม่ควรอยู่ใต้ขื่อ หรือใต้คาน: อาจเกิดปัญหาด้านบริวาร และการเงินติดขัด ไม่ควรหันไปทางประตู: เพราะเชื่อว่าจะรับพลังลบ ทำให้นอนพักได้ไม่เต็มที่ เหนื่อยง่าย ไม่ควรอยู่ระหว่างประตู-หน้าต่าง: จะทำให้ถูกดูดพลังงานจากร่างกาย ไม่ควรหันเข้าหากระจก: เพราะจะสะท้อนและดูดพลังงานจากเราไป อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่ เริ่มต้นชีวิตดีๆ ที่ลงตัวด้วยการเลือก "ทิศทาง" ของคอนโดแบบไหนให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ หวังว่า Trick&Tips การปรับ - เปลี่ยนการจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยก็ทำได้ไม่ยาก เพราะมีให้เลือกกันได้หลากหลายทิศ และหลากหลายรูปแบบ ฉะนั้นถ้าใครอยากให้ห้องนอนของเราช่วยเสริมดวงชะตาและช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น ก็อย่าลืมเปลี่ยนห้องนอนให้เป็นไปตามฮวงจุ้ยเหล่านี้นะ

MAY

อยากรู้ว่าเราเป็นคนยังไงดูได้จากการ

MAY

เจอผีในบ้านอย่าไปกลัว ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องสู้ด้วยไอเทมเด็ด!

MAY